วันรำลึกถึงผู้พลีชีพแห่งอารัด
6 ตุลาคม, จันทร์
เหตุการณ์สมรภูมิกัรบาลา
อิหม่ามฮุเซนและผู้ติดตามของเขาจำนวนหนึ่งถูกกองทัพของยะซีด บุตรของมุอาวียะห์ แห่งราชวงศ์อุมัยยะห์ โอบล้อมและสังหารในทะเลทรายใกล้เมืองกัรบาลา ประเทศอิรักในปัจจุบัน ฮุเซนปฏิเสธที่จะสาบานตนจงรักภักดีต่อยะซีด เนื่องจากมองว่าเป็นผู้นำที่ไม่ชอบธรรม การเสียสละของเขาจึงถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความยืนหยัดต่อความอยุติธรรมและการปกป้องหลักการของศาสนาอิสลาม
ความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม
วันรำลึกถึงผู้พลีชีพแห่งอารัด หรือที่รู้จักกันในชื่อ อาชูรอ (Ashura) มีความสำคัญอย่างยิ่งในหมู่ชาวมุสลิมชีอะห์ ซึ่งจะจัดพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินขบวน การอ่านบทกวีไว้อาลัย (มะตัม) และการแสดงละครจำลองเหตุการณ์กัรบาลา (ตะอ์ซียะห์) เพื่อแสดงความเศร้าโศกและรำลึกถึงความเสียสละของอิหม่ามฮุเซน
พิธีกรรมและการปฏิบัติ
- การไว้ทุกข์: ผู้ศรัทธาจะสวมเสื้อผ้าสีดำและงดเว้นความบันเทิง
- การเดินขบวน: มีการเดินขบวนไว้อาลัยในหลายประเทศ เช่น อิหร่าน อิรัก เลบานอน และปากีสถาน
- การตีอก (มะตัม): เป็นการแสดงออกถึงความเศร้าโศกและความเสียใจ
- การเล่าเรื่องกัรบาลา: ผ่านบทกวีและการแสดงละคร เพื่อถ่ายทอดบทเรียนทางศีลธรรมและจริยธรรม
ความแตกต่างระหว่างนิกาย
แม้ว่าชาวมุสลิมสุหนี่จะยอมรับเหตุการณ์กัรบาลาว่าเป็นโศกนาฏกรรม แต่โดยทั่วไปจะไม่จัดพิธีกรรมไว้อาลัยในระดับเดียวกับชาวชีอะห์ อย่างไรก็ตาม วันอาชูรอยังมีความสำคัญในหมู่สุหนี่ในฐานะวันที่มีเหตุการณ์สำคัญทางศาสนาอื่น ๆ เช่น การที่นบีมูซา (โมเสส) และชาวอิสราเอลรอดพ้นจากฟาโรห์
อิทธิพลทางการเมืองและสังคม
วันรำลึกถึงผู้พลีชีพแห่งอารัดยังมีบทบาททางการเมืองในบางประเทศ โดยเฉพาะในอิหร่านและอิรัก ซึ่งพิธีกรรมในวันนี้มักถูกใช้เพื่อเน้นย้ำแนวคิดเรื่องการต่อสู้กับความอยุติธรรมและการต่อต้านการกดขี่
วันรำลึกถึงผู้พลีชีพแห่งอารัดจึงไม่เพียงเป็นวันแห่งความเศร้าโศกทางศาสนา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม ความเสียสละ และความศรัทธาในหลักการอันมั่นคงของศาสนาอิสลาม