ซามิลจอล
1 มีนาคม, เสาร์
ความเป็นมา
หลังจากที่จักรวรรดิญี่ปุ่นผนวกเกาหลีในปี ค.ศ. 1910 ชาวเกาหลีจำนวนมากไม่พอใจต่อการปกครองที่กดขี่และพยายามเรียกร้องเอกราช หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญคือการเคลื่อนไหวในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1919 ซึ่งนักศึกษา นักวิชาการ และประชาชนชาวเกาหลีกว่า 2 ล้านคนได้ออกมาชุมนุมอย่างสันติทั่วประเทศ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นเอกราชจากญี่ปุ่น โดยมีการอ่าน "คำประกาศอิสรภาพ" (독립선언서) ซึ่งร่างขึ้นโดยนักคิดและนักเคลื่อนไหวชาวเกาหลี 33 คนที่รู้จักกันในชื่อ "33 ผู้แทนแห่งชาติ"
เหตุการณ์ในวันนั้น
แม้การชุมนุมจะเป็นไปอย่างสันติ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตอบโต้ด้วยความรุนแรง มีการใช้กำลังทหารและตำรวจเข้าปราบปรามผู้ชุมนุม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน บาดเจ็บและถูกจับกุมอีกจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้จุดประกายให้เกิดขบวนการชาตินิยมและการต่อสู้เพื่อเอกราชในรูปแบบต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
การเคลื่อนไหวในวันที่ 1 มีนาคมถือเป็นจุดเริ่มต้นของขบวนการเรียกร้องเอกราชอย่างเป็นระบบในเกาหลี และนำไปสู่การก่อตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลของเกาหลีในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชในเวลาต่อมา
การเฉลิมฉลองในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน ชาวเกาหลีใต้เฉลิมฉลองวันซามิลจอลด้วยการจัดพิธีรำลึกทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่อนุสรณ์สถานสำคัญ เช่น อนุสรณ์สถานแห่งชาติในกรุงโซล มีการชักธงชาติแทกึกกีตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ รวมถึงการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการศึกษาเพื่อให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและเอกราช
สัญลักษณ์และจิตวิญญาณของวันซามิลจอล
วันซามิลจอลเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ ความสามัคคี และความมุ่งมั่นของประชาชนเกาหลีในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคและการปราบปรามอย่างรุนแรง แต่จิตวิญญาณแห่งเสรีภาพยังคงดำรงอยู่และกลายเป็นรากฐานของการสร้างชาติในยุคปัจจุบัน